ขั้นตอนขอเงินสมทบกรณีตกงาน

ขั้นตอนขอเงินสมทบกรณีตกงาน

สิทธิแรงงาน

โดย ทีมงาน PIMJOB.COM

เมื่อคุณตกงานไม่ว่าจะโดนไล่ออกหรือลาออกเอง แน่นนอนสิ่งที่หลายๆคนทำอย่างแรกคือหางานใหม่ และสิ่งที่สำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราคือค่าใช้จ่ายต่างๆ  เงินประกันสังคมที่เราจ่ายทุกเดือนไม่ได้เสียไปเปล่าๆอย่างแน่นอน มาดู 3ขั้นตอนง่ายๆยื่นขอเงินสมทบเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของคุณเมื่อตกงาน

การคำนวณประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานคิดจากฐานค่าจ้างที่ใช้คำนวณการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน เป็นฐานเดียวกับที่ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท


กรณีถูกเลิกจ้างหรือโดนไล่ออก

-ได้รับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงาน ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน

กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง

-ได้รับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงาน (ลาออกเองหรือหมดสัญญาจ้าง) ร้อยละ 30 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน

 


 

การรับสิทธิกรณีว่างงานจากประกันสังคมมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง


ขั้นตอนที่ 1 ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานทางระบบอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์  www.empui.doe.go.th) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อผู้ประกันตนขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานทางระบบอินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วจะต้องนำเอกสารดังต่อไปนี้ไปยื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ / จังหวัด ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่)
      - บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
      - รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
      - หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)
      - สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน ผ่าน 11 ธนาคาร ดังนี้ 


 1) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
 2) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) 
 3) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)
 4) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) 
 5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 
 6) ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)
 7) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 
 8) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) 
 9) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย  
10) ธนาคารออมสิน
11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)

ขั้นตอนที่ 3 ผู้ประกันตนจะต้องรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์ www.empui.doe.go.th) ตามเงื่อนไขให้ครบถ้วน เพื่อมิให้เสียสิทธิในการรับเงินทดแทน

 
                                                               ขอบคุณข้อมูลจาก www.sso.go.th